30 พฤษภาคม, 2555

ตัดสินใจบอกคนรอบข้าง

ก่อนหน้าที่เมมีอาการ ไม่ว่าจะเครียด เศร้า ร้องไห้ ไปพบแพทย์ ฯลฯ
เมก็ยอมรับและเผชิญกับมันมาคนเดียวตลอด
จนพี่ชายที่สนิทกัน เริ่มถามถึงอาการบ่อยขึ้น เพราะเราแปลกไปนี่
เราเลยตัดสินใจพูดเท่าที่สามารถสื่อออกไปได้
เพราะบางครั้ง การที่จะพูด หรืออธิบายอะไรออกไป มันก็ช่างยาก
เรียบเรียงคำพูดไม่ถูก ว่าจะพูดว่าอะไร ใช้คำว่าอะไร
ให้คนฟังเค้าเข้าใจในสิ่งที่เาต้องการจะสื่อ

ก็เหมือนกับการเขียนบล๊อกนี่ล่ะ ก็ต้องใช้ความพยายามเช่นกัน

เมเริ่มจากพูดสิ่งที่เมเสียใจ จากการที่เป็นแบบนี้
ตัวอย่างเช่น เมเสียใจที่ไม่สามารถ take care น้องสาวที่สนิทกันได้เหมือนเมื่อก่อน
เมจะชอบทำอาหาร ทำขนมให้น้องทาน พาน้องไปเที่ยวที่ที่น้องสาวอยากไป
แต่ 7 เดือนที่เมเป็นแบบนี้ เหตุการณ์ปรกติที่เมเคยทำ แทบจะไม่มีเลย
ที่ว่า แทบจะไม่มีเลย ก็คือ มีพาน้องออกไปทานข้าวข้างนอกบ้าง
แต่ทำอาหารที่บ้าน ไม่มีเลย ไม่มีสักจานเลย

แล้วก็เสียใจ ที่ทำตัวให้แม่ต้องเป็นห่วงตลอด เสียใจกับคำพูดของเพื่อนบ้าง
คำพูดของพี่สาวบ้าง น้อยใจบ้าง เมเริ่มระบายออกไปทีละเรื่องที่นึกออก

พี่ชายก็รับฟัง แล้วก็บอกว่า จะยังไงก็แล้วแต่ อยู่ด้วยกันต่อไปนานๆ
อยากให้หนูกลับมาเป็นคนเดิม อยากจะทำอะไรก็ทำ ไม่อยากทำก็ไม่ต้องทำ

เมก็เริ่มเบาใจขึ้นเปราะหนึ่ง ว่าอย่างน้อย มีคนหนึ่งล่ะ ที่ยอมรับในสิ่งที่เราเป็น
เค้าจะเข้าใจเราหรือเปล่า เมไม่รู้หรอก แต่อย่างน้อย ยังมีพี่ชายคนนี้เป็นกำลังใจ
และเชื่อมั่นในตัวเมว่าเมจะต้องหาย และแน่นอนเมก็อยากหาย

ส่วนคนที่สอง ที่เมตัดสินใจพูดให้ฟัง ก็คือพี่สาวแท้ๆ ของเมเอง
ถ้าใครเคยอ่านบทความแรกๆ จะรู้ว่า เมไม่ได้สนิทกับพี่สาวเท่าไหร่นัก
แต่เมก็ตัดสินใจที่จะค่อยๆ พูดออกไป
พี่สาวกับแม่ จะคิดตลอดว่า ที่เมเป็นแบบนี้เพราะว่าเมเลิกกับแฟนที่คบกันมานาน
และมีความคาดหวังสูง พอต้องมาเลิกกัน เมเลยทรุด

จะบอกว่ามันไม่ใช่เหตุผล มันก็ไม่เชิงสะทีเดียว แต่จะบอกว่า มันคือทั้งหมด มันก็ไม่ใช่แน่นอน

พอเมเริ่มพูด เริ่มสื่อออกไปให้พี่สาวฟัง พี่สาวก็จะมีความขัดแ้งตอบโต้กลับมาตลอด
แล้วทำไมไม่อย่างนั้น แล้วทำไมไม่อย่างนี้
แล้วถ้าคิดว่าตัวเองเป็น "โรค" ก็จะเป็นแบบนี้ต่อไป เมื่อไหร่จะหาย
เมไม่ได้ต้องการให้ใครมาเออออห่อหมกกับเมตลอดหรอกนะ
แต่เมก็จะบอกพี่สาวตลอดว่า สิ่งที่แจ้พูดมาน่ะ เมรู้ เมคิดได้ แต่เมไม่สามารถทำได้

พี่สาวย้อนถามเมว่า แล้วหมอจะช่วยอะไรเราได้ ก็แค่ให้ยาๆ แล้วก็กลายเป็นคนติดยา
คือ จะมาถามเมแบบนั้น เมก็ตอบไม่ถูกเหมือนกันหรอกนะ
แต่เมรู้แต่ว่าอย่างน้อย เมก็ได้ "พยายาม" ทำอะไรสักอย่าง เพื่อช่วยเหลือตัวเอง

2-3 อาทิตย์ที่ผ่านมา เมเครียด และหดหู่อยู่บ่อยๆ
ร้องไห้หนักๆ และเริ่มกลับมาทำร้ายตัวเอง ก็ไม่ถึงกับเลือดตก ยางออก
เพราะทุกครั้ง เมก็พยายามเรียกสติตัวเองตลอด ไม่ว่าจะร้องไห้หนักขนาดไหน
ตะโกนให้ลั่นรถ ก็จะนึกถึงหน้าแม่ตลอด
เมยอมรับ ว่าความคิดที่ไม่อยากจะอยู่อีกต่อไปแล้วเริ่มกลับมา

เมเลยคิดว่า ถ้าได้บอกคนรอบข้างบ้าง เค้าอาจจะช่วยเป็นกำลังใจ
หรือช่วยดึงเรากลับมา แต่ก็นะ คำว่า "เค้าไม่เข้าใจเราหรอก" มันก็มีความหมายแบบนั้นจริงๆ