24 มิถุนายน, 2555

คุยเรื่องผลข้างเคียงของยากับตัวเม

อันนี้เป็นบล็อกเกี่ยวกับผลข้างเคียงของยากับตัวของเมเองค่ะ

คุณหมอกับเภสัชกรมักจะบอกว่า
ยาที่ใช้กับแต่ละคนที่เป็น MDD จะแตกต่างกันไป ตามประเภท และขนานของยา

ครั้งแรกที่เมไปพบคุณหมอ คุณหมอให้ Lorazepam กับ Lexapro ค่ะ
Lorazepam จะทานก่อนนอน ช่วยให้หลับ
Lexapro เป็นยาต้านเศร้า คุณหมอให้ทานหลังอาหารมื้อเช้า

ครั้งแรกที่ได้ยามา เมก็มา Search หาก่อนเลยว่า ยาตัวนี้เป็นยังไง ให้ผลยังไง
ข้างเคียงยังไง พออ่านแล้วก็ผลใกล้กันคือ ความง่วงซึม

เอาไงล่ะทีนี้ เมเองก็อยากจะหลับ แต่ไม่อยากง่วงซึม นอนอยู่กับบ้าน
แถมเคยไปอ่านบล็อกคนอื่นว่า ทานแล้วไปไหนไม่ได้เลย
อยากอยู่แต่ในห้อง

คือ เมไม่ได้ ไม่อยากอยู่บ้านนะ แต่ว่า ไม่อยากให้คนที่บ้านเห็นเมเป็นแบบนี้ต่างหาก
ยอมที่จะไปนั่งหลับที่ร้านกาแฟก็เอา

เมก็เลยไม่ยอมทาน พอถึงคราวนัดพบคุณหมออีก คุณหมอก็ถามเรื่องยา
ก็โดนดุนิดหน่อย ถ้าใครเคยได้อ่านบล็อกก่อน เลยกลับบ้านมาทานยาตามหมอสั่ง
(อย่างเต็มใจนิดๆ)

ยาตัวก่อนนอน เมทานคืนแรก หลับปุ๋ยค่ะ ครบ 8 ชม. เด๊ะ!
ตื่นมาอีกที ว้าวววว หลับยาว ไม่ได้หลับยาวมานานมากๆ แล้ว ไม่ใช่เดือน แต่เป็นปี..
แต่...มึนมากๆ ค่ะ พอจะลุกเท่านั้นล่ะ มึนแบบล้มลงที่นอนใหม่
เมก็ เอ๊ะ เราคงลุกเร็วไป เอาใหม่ๆ ทีนี้ค่อยๆ ลุก หายใจลึกๆ
แต่ก็จะเวียนๆ หัว มึนๆ เมก็คิดว่า เดี๋ยวสักพัก มันคงหายไป

พอหลังทานมื้อเช้า เมก็ทานยาตัวที่หมอสั่งให้ทานหลังอาหารเช้าต่อเลย

สรุปแล้ว วันนั้น มึนทั้งวันค่ะ มึน แต่เมไม่ง่วงนะ มึนแบบ เวียนหัวมากๆ เดินตรงไม่ได้
นี่ถ้าไปโดนจับข้อหาเมาแล้วขับ คงโดนเล็งคนแรกแน่ๆ เพราะเดินเอียงสุดๆ
หน้ามืดบ่อยมากๆ บางครั้งแอบวูบนิดๆ การทรงตัวนี่ยากลำบากในช่วงอาทิตย์แรกมากๆ

พออาทิตย์ที่สอง เริ่มดีขึ้น แต่ยังมึนๆ เอียงๆ เล็กน้อย
พอไปพบคุณหมออีกครั้ง คุณหมอเลยเปลี่ยนตัวยาก่อนนอนให้
จาก Lorazepam เป็น Clonazepam

เราก็แอบดึใจนิดนึงว่า เอ๊ะ หรือเราอาการดีขึ้น เปลี่ยนยา? คิดเอาเองนะ
เมก็ทานยาตามหมอสั่งปกติ แล้วอาการมึนหนักๆ ก็กลับมาอีก
จากดีขึ้น กลับมามึนหนักกว่าเดิม จากที่มึนอยู่แล้ว เดินเอียงอยู่แล้ว
เอียงกว่าเดิมเพิ่มขึ้นประมาณ 20%
แถมพูดจาไม่รู้เรื่อง พูดวนไปวนมา เหมือนปากติดขัด 

แต่เมก็ไม่ยอมแพ้ ยังพยายามดันตัวเองออกไปข้างนอก
แต่ไปแล้วก็ได้แต่นั่ง จะไปเดินเหินดูโน้นนี่ ก็ฝันไปเถอะ ทรงตัวยังแทบจะไม่อยู่

พอเมทานไปต่อไปอีกสองอาทิตย์ อาการเหล่านี้ก็หายไป ไม่ถึงกับหายสนิท
ยังหลงเหลือ หน้ามืดอยู่บ้าง เวียนหัวนิดหน่อย แต่ไม่เดินเอียง หรือทรงตัวยากแล้ว
เภสัชกรบอกว่า เป็นเพราะร่างกายกำลังปรับตัวให้เข้ากับยา
ผลข้างเคียงก็จะขึ้นอยู่กับแล้วแต่บุคคลด้วยค่ะ