27 พฤษภาคม, 2555

พบคุณหมอครั้งที่2

วันนี้ไปถึงประมาณเก้าโมงกว่า
ยังมีแอบนอยด์บ่นในทวิตว่า ไม่อยากไปอยู่เลย
แต่ไม่ใช่เพื่อใคร เพื่อตัวเองก็ต้องไป

ค่อยๆ ขับรถไปเรื่อยๆ ไม่รีบร้อน
พอไปถึง ก็หันซ้าย หันขวา ว่ายื่นใบนัดช่องไหนหว่า
ยื่นใบนัดเสร็จ เค้าก็บอกให้ไปนั่งรอ หน้าห้อง 302 (ถ้าจำไม่ผิด)
พร้อมให้บัตรคิวมาด้วย


เมก็นั่งรอไป แอบตื่นเต้นเหมือนเดิม พอถึงคิวก็เข้าไปในห้อง
วัดความดัน ชั่งน้ำหนัก แล้วพยาบาลก็สอบถามอาการว่า เป็นอย่างไรบ้าง
ดีขึ้น หรือแย่ลง เมตอบไปว่า ทรงตัวค่ะ
พยาบาลก็เขียนยึกๆๆๆๆ ลงในแฟ้ม แล้วก็ให้เหรียญพลาสติกเหมือนเดิม
บอกให้ไปรอพบคุณหมอ

ระหว่างเดินขึ้นบันไดแค่ไม่กี่ขึ้นเพื่อไปนั่งรอพบคุณหมอ
ก็ยังแอบคิดว่า "ที่ให้พบหมออีก แสดงว่า ยังต้องรักษาต่อสินะ
ก็ใช่สิ อารมณ์แปรปรวนขนาดหนัก เอาวะ สู้ๆ"



ตอนไปนั่งรอ มีคนไข้คนหนึ่ง นั่งร้องไห้ แล้วก็พูดอะไรไม่รู้
เมจับใจความไม่ได้เลย รู้สึกสงสารมาก จนน้ำตาไหล
กลับกลายเป็นร้องไห้ตามไปเลย โอ้ว ชีวิต!

พอเจ้าหน้าที่เรียกให้พบคุณหมอ เมก็รีบเช็ดน้ำตาแล้วเข้าไปพบคุณหมอ
วันนี้หน้าตาคุณหมอดูสดใสเป็นพิเศษ เราเลยแอบรู้สึกดีขึ้นนิดนึง (ไม่รู้ทำไม)
คุณหมอก็ถามว่า เป็นยังไงบ้าง สองอาทิตย์ที่ผ่านมา
เมก็เล่าให้ฟัง ว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง รวมๆ ก็คือ
ร้องไห้น้อยลง แต่ขี้หงุดหงิด อารมณ์ฉุนเฉียวมากขึ้น
คุณหมอเลยบอกว่า "เป็นส่วนหนึ่งของอาการนะ ไม่ต้องวิตก"
แล้วก็ถามเมว่า "แล้วเราทำยังไง เวลารู้สึกโมโหมากๆ หงุดหงิดมากๆ"
เมเลยบอกว่า ก็จะเดินหนีไป หรือนับเลขในใจ เพื่อระงับอารมณ์
คุณหมอก็ถามอีกว่า "แล้วการทำแบบนั้น กับได้โวยวายออกมา แบบไหนดีกว่ากัน?"
เมนิ่งไปแป๊ปนึง คิดก่อน..แล้วก็ตอบว่า ได้โวยวายออกไปก็ดีไปแบบนึง
แต่หลังจากสงบก็รู้สึกแย่ รู้สึกผิด เสียใจที่โวยวายออกไปแบบนั้น
แต่ถ้าพยายามเก็บ มันก็สะสมๆ ทำให้เครียดขึ้นมาอีก 

คุยไปเรื่อยๆ คุณหมอก็ถามเรื่องการนอนหลับ ทานข้าว
แล้วก็เลยพาลไปถามถึงเรื่องยา เมเลยบอกไปตามตรงว่า
ไม่ได้ทานยาเลย แล้วก็บอกเหตุผลไป (อ่านย้อนได้ที่บล็อกก่อนหน้าค่ะ)
http://maepinksnow.blogspot.com/2012/05/blog-post_4403.html

คุณหมอเลยบอกว่า ขอให้ลองทานยาดูนะ เพราะยาจะช่วยในเรื่องของอารมณ์อย่างมาก
เราก็เลยทำหน้าแหยๆ แล้วก็พยักหน้างึกๆ

พบหมอครั้งนี้ไม่ต้องเสียค่ายา ใช้ยาเดิม เลยจ่ายแค่ค่าหมอ 50 บาท
นัดอีกครั้งในสองอาทิตย์ข้างหน้า