13 มิถุนายน, 2555

เข้าร่วมคลีนิคบำบัดโรคซึมเศร้าครั้งที่1 Part2

Part 1 อันนี้นะคะ
http://maepinksnow.blogspot.com/2012/06/1.html

ต่อเลยนะคะ
วิธีรักษา
ดีที่สุดคือ การรักษาทางการแพทย์ ร่วมกับ การรักษาทางจิตใจ

ทางการแพทย์ คือ การให้ยาต้านเศร้า
รักษาทางจิตใจ คือ ปรับแนวคิดเชิงบวก
ซึ่งก็จะแตกต่างไปในแต่ละบุคคล และการวินิจฉัยของแพทย์

การออกกำลังกานก็สามารถช่วยได้เช่นกันค่ะ

ต่อไปเป็นเภสัชกรมาให้ความรู้เกี่ยวกับยาต้านเศร้าหรือคุณหมอบางคนจะใช้คำว่า ยาควบคุมอารมณ์

ยาต้านเศร้าโดยทั่วไปมีฤทธิ์ระงับอาการซึมเศร้า
และยังช่วยป้องกันการกลับเป็นซ้ำของโรคได้อีกด้วย

การรับประทาน ต้องรับประทานต่อเนื่อง โดยประมาณ 6 เดือน ถึง 1 ปี (แล้วแต่บุคคล)
และไม่ควรหยุดยาเอง
"ไม่ควรหยุดยาเอง" ทั้งคุณหมอและเภสัชย้ำหลายครั้งมากๆ

การทานยาต่อเนื่องจะมีโอกาสหาย และกลับมาเป็นอีกได้น้อยมาก
เพราะถ้าไม่ทานยาต่อเนื่อง และกลับมาเป็นอีก โอกาสที่จะรักษาหายจะน้อยลง และอาการอาจรุนแรงมากขึ้น

ยาต้านเศร้า มีเป้าหมายคือ รักษา และป้องกันการกลับมา

การเลือกใช้ยา
ยาจะมีหลายชนิด หลายขนาน เช่น 5 mg, 10 mg เป็นต้น
จะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ ให้เหมาะสมในแต่ละช่วงของคนไข้

ผลข้างเคียงของยาต้านเศร้า
ท้องผูก, อาเจียน, ความดันต่ำ, หน้ามืด, เวียนศีรษะ, ปากแห้ง, คอแห้ง เป็นต้น
เกิดกับแค่บางคน และช่วงแรกๆ ของการใช้ยา

และถ้าเจ็บป่วยเป็นโรคอื่น หรือ ไปพบแพทย์เพื่อรักษาอาการอื่นๆ เช่น เป็นหวัด เป็นต้น
ต้องแจ้งให้แพทย์ หรือเภสัชกรทราบว่าเรารับยาต้านเศร้าอยู่ทุกครั้ง
เพื่อป้องกันการตีกันของยา หรือ ยาบางตัวอาจส่งผลในการเพิ่ม หรือลดประสิทธิภาพของยา

ทิ้งท้าย Coffee Lover ทั้งหลายจ๋า
กาแฟก็มีส่วนลดประสิทธิภาพในการทำงานของยาต้านเศร้าเช่นกันนะจ๊ะ

อันนี้กระแทกโดนเมเองเต็มๆ *0*

จบการเข้าบำบัดครั้งที่ 1 ค่ะ
มีรูปภายในห้องมาฝากด้วย อาจถ่ายไม่ชัดขออภัย แบบว่า มือสั่น เพราะหนาวมากกกก แล้วก็ไฟสะท้อนด้วยค่ะ







*หมายเหตุ
อันนี้เป็นความรู้ที่เมได้รับมาจากการไปเข้าบำบัด ถ้าผิดพลาดประการใด ขออภัยไว้ด้วยค่ะ