27 พฤษภาคม, 2555

ขอแชร์อะไรเล็กๆ น้อยๆ

หลังจากพบคุณหมอครั้งที่สองเสร็จ เมก็นึกขึ้นได้หลายอย่าง 
ว่าตัวเองมีคำถามเยอะแยะมากมายอยากจะถามคุณหมอ
แต่กลับไม่ได้ถามเลย

เลยอยากแนะนำว่า ต้องจด นึกได้ตอนไหน อารมณ์มาตอนไหน จดเลยค่ะ 

ถ้าจด ใส่สมุด หรือกระดาษแล้วลืมพกไป หรือจดแล้วมันช้า ไม่ทันใจ ไม่ทันความคิด
เมแนะนำให้อัดเสียงใส่โทรศัพท์เลย ซึ่งเมทำแบบนั้นจริงๆ

อ่อ แล้วก้มีอีกอย่าง ที่เมลืมเล่าไปในบล็อกที่แล้ว 
ก็คือ เมเล่าให้คุณหมอฟังด้วยว่า เมเล่นอินเตอร์เน็ตนะ 
เล่นทวิตเตอร์ แล้วก็ได้คุยกับคนที่เค้าเป็นเหมือนกับเรา 
ให้กำลังใจกันและกัน ก็จะรู้สึกดีขึ้นมา มากบ้าง น้อยบ้าง ตามโอกาส
แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีเลยไม่ใช่เหรอ?
ซึ่งยอมรับเลยว่า บางครั้งยังรู้สึกว่า 
เค้าสนใจความรู้สึกนึกคิดเรามากกว่าคนรอบข้างเสียอีก


แล้วบางที เวลาเมรู้สึกดาวน์มาก หดหู่มาก รู้สึกเหมือนตัวเองจะร่วงลงไป
เมกลับนึกถึงเพื่อนในทวิตเตอร์มากขึ้น 
ยังไงก็ขอขอบคุณคุณนางกับน้องเฟิร์นอีกครั้ง 
ปล. ที่เรียกคุณนางว่าคุณนาง เพราะไม่ทราบอายุเลย แล้วก็ไม่เคยถาม นั่นสิ ทำไมหว่า ><


จากที่บ่นๆ มาด้านบน คือ เมต้องการจะบอกว่า การที่เราได้มีใครสักคนที่รับฟังเรา
ไม่ต้องเข้าใจเราก็ได้ ขอแค่เค้ายินดี และเต็มใจที่รับฟังเรา สักคนหนึ่ง เท่านั้น 
เราจะรู้สึกดีขึ้นได้ ไม่มากก็น้อย แล้วแต่สถานการณ์


กับคนที่เราไม่เคยพบเจอในชีวิตจริง กับคนที่เราไม่เคยไปทานอาหาร หรือหัวเราะด้วยกัน
แต่มาร้องไห้ผ่านหน้าคอม หน้าไอแพด หน้าซัมซุง หรืออะไรก็แล้วแต่ และระบายสิ่งที่เราอัดอั้นออกไปบ้าง สักพัก เราจะสงบลงค่ะ จริงๆ นะ 


อยากบอกให้ทุกคนสู้ บอกตัวเองด้วย สู้ไปด้วยกัน โรคนี้หายได้ค่ะ 


ทิ้งท้ายด้วยป้ายที่รพ. "โรคซึมเศร้า ไม่ใช่โรคจิต ใส่ใจสักนิด รักษาหายได้"